วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงเวลาฟังเพลงใหม่สุดเจ๋ง จาก Room39 ในซิงเกิลล่าสุด “Restart”

ถึงเวลาฟังเพลงใหม่สุดเจ๋ง จาก Room39 ในซิงเกิลล่าสุด “Restart”

หลังจากที่เมื่อกลางปีที่ผ่านมาวงดนตรีสุดคูล อย่าง Room39 ได้ปล่อยเพลงใหม่เนื้อหาโดนๆ ออกมาถึงสองเพลง สองอารมณ์ ได้แก่เพลง รับได้รึเปล่า และเพลง ความจริง ที่ได้แว่นใหญ่เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทั้ง 2 เพลงก็ทำให้กลายเป็นเพลงฮิตติดลมบนตามคลื่นวิทยุ มีเนื้อร้องที่ติดปากคนฟังอย่างเราๆ อย่างเพลงหลาย รวมถึงทั้ง 2 เพลงนี้ก็ยังติดอยู่ในอันดับที่ 1 ของ JOOX อีกด้วยนะ วันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะนำเรื่องราวใหม่ๆ ออกมาถ่ายทอด พร้อมด้วยเพลงใหม่ล่าสุดที่มีชื่อตรงตัวว่า “Restart” กลับมาฝากแฟนๆ กัน



วง Room39 นั้นถือได้ว่าเป็นวงดนตรีคัฟเวอร์อันดับต้นๆ ที่ใครหลายๆ คนต่างก็ซูฮกในฝีมือการทำเพลงของพวกเขา มีสไตล์การร้องแบบอาร์แอนด์บีของ “ทอม” การร้องเสียงไลน์ประสานหวานๆ ของนักร้องสาวอย่าง “ม่อน” และการเล่นดนตรีประกอบในรูปแบบ Acoustic ที่มีเส้นสายลายดนตรีโดดเด่นแต่เรียบง่ายของ “ใหญ่” ทำให้วงดนตรีของพวกเขามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และด้วยความไพเราะของทุกบรรเพลงที่พวกเขาถ่ายทอด ประกอบความสามารถที่หลากหลาย ก็ทำให้วง Room39 ได้รับความนิยมในเกือบทุกบทเพลงที่ได้ปล่อยออกมา



“Restart” เป็นอีกหนึ่งซิงเกิลที่มีความลงตัวในแง่ของเนื้อหา คำร้อง ทำนอง และสไตล์การร้อง ซึ่งในเพลงได้พูดถึงการขอโอกาสจากคนที่เรารักอีกสักครั้ง ให้เราได้ย้อนกลับไปแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ให้เราได้เริ่มต้นใหม่กับช่วงเวลาใหม่ๆ อีกสักที ซึ่งถ้าเมื่อฟังเพลงนี้ดีๆ แล้ว ก็จะพบว่าทุกอย่างในเพลงนั้นช่างลงตัว สมบูรณ์ไปทุกองค์ประกอบของความเป็น Room39 ฟังกี่ทีก็ยังคงเพราะ และติดหูเหมือนเดิม


เพียงเท่านี้ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า Room39 พวกเขาคือวงดนตรีที่เป็นตัวจริงในเรื่องของการทำเพลง ทั้งเนื้อหา สไตล์เพลงที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เพียงแค่ดนตรีขึ้นไม่กี่วินาที เราก็สามารถรู้ได้เลยทันทีว่าเพลงนี้เป็นเพลงของพวกเขา ยังไงก็ตาม เราอยากให้สนับสนุนพวกเขา และติดตามผลงานใหม่ๆ ของพวกเขาที่จะออกมาเรื่อยๆ นะ



ขอบคุณภาพจาก Facebook Room39
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงเวลาฮา ! เมื่อวง “อโศก” พา “ดาว ขำมิน” มาร่วมใน MV เพลง “ฟังแล้วยิ้ม”

ถึงเวลาฮา ! เมื่อวง “อโศก” พา “ดาว ขำมิน” มาร่วมใน MV เพลง “ฟังแล้วยิ้ม”

นับว่าเป็นนักดนตรีหน้าเก่าที่มากไปด้วยความสามารถ บางคนก็อาจจะคุ้นหน้า บางคนก็ไม่คุ้นหน้าเลย สำหรับวงดนตรีที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “อโศก” พวกเขาเหล่านี้เคยมีผลงานมากอย่างมากมาย มีเพลงที่ฮิตติดหูพวกเราก็มากอยู่ เพราะพวกเขาเหล่านี้เคยเป็นสมาชิกของวง “กะลา” มาก่อน ไม่จะเป็น สมพร มือกลอง เขต มือเบส และ เพชร มือกีต้าร์ ที่โคจรมารวมตัวกับนักร้องนำอย่าง นัท สุรเกียรติ วง Trance Ziztor ที่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะมีผลงานให้แฟนๆ ได้ฟังกันอีกครั้ง ในโปรเจค Green light project จากค่าย Werkgang กับเพลง “ฟังแล้วยิ้ม” .. ยิ้มรึยังล่ะ ?


โดยเพลงนี้เป็นเพลงแนวบอกรักไม่ซ้ำใคร ซึ่งโดยปกติแล้วเพลงร็อคทั่วๆ ไปจะเน้นไปที่เรื่องราว และดนตรีที่ฟังดูเศร้า ส่วนเพลงนี้ขอแหวกมาเป็นเพลงจังหวะโจ๊ะๆ สนุกๆ ตั้งคำถามว่า “ทำไมเธอถึงยิ้ม ?” หลังจากที่เราได้บอกรักไป .. ยิ้มเพราะว่าดีใจ หรือ เธอตั้งใจจะปฏิเสธกันแน่ ?


นอกจากเพลงที่มีเนื้อหาไม่เหมือนใครแล้ว ในมิวสิควีดีโอก็ยังมีแขกรับเชิญหน้าคุ้นมาร่วมแจมกันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ดาราตลกสุดมึน อย่าง ดาว ขำมิน ที่มารับหน้าที่เป็น Commentator สุดอึน, โตโน่ และ วง The Dust, หนึ่ง ETC, โทนี่ผี และยังมีศิลปินอีกหลายท่านรับบทเป็นนักร้องประกวด ซึ่งใน MV ได้ถูกเซ็ทให้เป็นการออดิชั่นนักร้องประกวดที่คนฟังจะต้องตั้งใจฟังนักร้อง ถ้าชอบก็ชม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะให้ผ่านเข้ารอบ มันก็เหมือนกับการบอกรัก ที่เราฟังแล้วอาจจะยิ้ม แต่ก็ไม่แปลว่าเขาจะบอกรัก ได้ความรักตอบแทนกลับคืนมา


ยังไงก็ลองไปฟังกันนะสำหรับเพลง “ฟังแล้วยิ้ม” นับว่าเป็นการกลับมาสู่เวทีของวงดนตรีหน้าใหม่ แต่ไม่ไร้ประสบการณ์เลย ถ้าฟังแล้วรู้สึกชอบ ก็อย่าลืมแชร์ต่อให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันด้วยนะ …


วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงเวลากลับมา ! “เต๋า Sweet Mullet” ขุดเรื่องตัวเองมาเขียนเป็นเพลง “นิทานหลอกเด็ก”

“เต๋า Sweet Mullet” งัดเรื่องตัวเองแต่งเพลง “นิทานหลอกเด็ก”

หายกันไปซะนานสำหรับวงร็อคเสียงแผดอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีเพลงฮิตติดหูกันอยู่มากมาย อย่าง Sweet Mullet (สวีท มัลเล็ต) ที่ประกอบได้ด้วยสมาชิกหนุ่มทั้ง 5 คน ได้แก่ เต๋า , แป๊บ , อั๋น , ตี่ และ หมู กว่า 3 ปีที่ไม่ได้มีเพลงออกผ่านวิทยุ หรือผ่านหน้าจอโทรทัศน์เลยแม้แต่นิด ตอนนี้ถึงเวลาที่ Genie Record จะดันพวกเขาจะกลับมาเดือดกันอีกครั้งให้สาสมใจกับ Single ใหม่ล่าสุด “นิทานหลอกเด็ก” ซึ่งหนุ่มเต๋า ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล นักร้องนำ ได้งัดเอาประสบการณ์จริงที่เจอมากับตัวถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงให้เราได้ฟังกัน !!!


เรียกได้ว่างานนี้หนุ่มเต๋าได้กลั่นกรองทุกอย่างมาจากความรู้สึกถึงความเจ็บปวดออกมาเป็นเนื้อร้อง และทำนองที่เข้าถึงแก่น อีกทั้งยังได้เพิ่มท่อนร้องที่เป็นภาษาอังกฤษเข้าไปด้วย นับเป็นความแปลกใหม่ที่เราจะได้เห็นจากซิงเกิลใหม่ของหนุ่มๆ วงนี้


เพลงว่าดีแล้ว แต่มิวสิควีดีโอต้องทำออกมาให้มันโดนมายิ่งกว่า ! รับรองได้เลยว่าใครที่เคยโดนแบบเดียวกัน หรือเหตุการณ์เดียวกันกับในเพลงนี้คงต้องมีจุกกันแน่ๆ โดยเต๋าบอกกับเราว่า …

“ผมโดนมากับตัวครับ แฟนผมมีผู้ชายอีกคนเข้ามาทั้งๆที่คบกับผมอยู่ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าเป็นใคร ผมก็งงว่าทำไมถึงเชื่อคนอื่นมากกว่าผม แล้วผู้ชายคนนั้นก็ยังหลอกคนอื่นอีก ก็เหมือนนิทานหลอกเด็กอ่ะครับ ต่างคนต่างหลอก กว่าผมจะเขียนเพลงนี้ได้ ต้องรอเวลาให้ใจนิ่งก่อนครับ



เนื้อเพลงมาจากอารมณ์โกรธปนน้อยใจ ส่วนดนตรีพวกเราย้อนกลับไปเหมือนอัลบั้มแรกๆที่เป็นร็อกหนักๆ เผลอๆอาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ สายเดือดได้โดดกันแน่ครับ แล้วก็มีท่อนภาษาอังกฤษ เพื่อคนฟังที่กว้างขึ้น มิวสิกวิดิโอถ่ายทำกันไปเรียบร้อย โลเคชั่นที่ท่าเรือ พระประแดง อย่างเท่เลยครับ ไม่เคยมาที่นี่เหมือนกัน ประทับใจมาก



นอกจากจะได้ชมภาพสวยๆแล้ว พวกเราก็ยังปรับลุคส์กันด้วย ตามแฟชั่นนิดนึงแต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ของพวกเราอยู่ อยากให้ลองฟังและดูมิวสิกวิดิโอกันดูครับ พวกเราสวีตมัลเล็ตไม่ได้เข้าห้องอัด ไม่ได้ทำเพลงมาพักใหญ่แล้ว ตื่นเต้นมากๆ ก็อยากให้ลองเปิดใจฟังเพลง “นิทานหลอกเด็ก” ดูครับ ฟังครั้งแรกอาจจะไม่ค่อยคุ้น ลองดูหลายๆ รอบครับ พวกเราตั้งใจกันเต็มที่ เริ่มหลอกตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์นี้นะครับ ฝากไว้ด้วยสำหรับคนที่กำลังหลอกคนอื่นอยู่ ระวังโดนจับได้นะครับ ขอบคุณครับ เต๋า เตือน”



TEASER MV นิทานหลอกเด็ก เพลงใหม่ Sweet Mullet พร้อมกัน 24.02.16



วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

โก้ Mr.Saxman-นนท์ The Voice ยกทัพศิลปินถ่ายทอดเรื่องราวมุมมองความรักผ่านบทเพลงในคอนเสิร์ต “The Voices of Love”


ถึงเวลาสร้างความประทับใจครั้งใหม่ผ่านเสียงดนตรี พร้อมแล้วที่ “The Sister” มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ ได้จัดกิจกรรมวิชาการบันเทิง ที่พร้อมรอต้อนรับให้ทุกคนเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ใน “โครงการสายเสียงในงานนิเทศศาตร์ ตอน The Voices of Love” โดยจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ณ คณะวิทยาการจัดการ อาคาร 7 ชั้น 15 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ ตั้งแต่เวลา 9.30 – 15.30 น.


ซึ่งภายในงานจะปรนแวดวงดนตรีประกอบไปด้วยกิจกรรม 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ช่วงเช้า จะมีการพบปะ พูดคุยกับศิลปิน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อ “เทคนิคการใช้เสียงเพื่อการตีความผ่านบทเพลงและบทละคร” และช่วงบ่าย จะได้พบกับเหล่าศิลปินคุณภาพจากเวที The Voice ที่จะมาถ่ายทอดมุมมองความรักหลากหลายรูปแบบ กับคอนเสิร์ต “The Voices of Love” ที่จะอบอวนไปด้วยเสียงเพลงแห่งความรักสุดซาบซึ้ง รับประกันได้ว่าคุณจะได้ความประทับใจกลับไปอย่างเต็มกระเป๋า รวมถึงได้ความรู้เพิ่มเข้าไปอีกด้วย …


ศิลปินที่จะมาขับกล่อมบทเพลงให้เราได้ประทับใจในกิจกรรมครั้งนี้ นำทีมโดย โก้ Mr.Saxman , นนท์ ธนนท์ (นนท์ Champ The Voice Season 1) , คิง พิเชษฐ์ (คิงส์ The Voice) , เหน่ง -พิชัยยุทธ (เหน่ง The Voice) , อ๊อด นันทภพ (พี่อ๊อด The Voice) ,หมู-ณัฐวรรธน์ (หมู The Voice) , น้ำฝน ภักดี (น้ำฝน The Voice) , จังโก้ พฤทธิ์ (จังโก้ The Voice)


เคี้ยง กิตติ (เคี้ยง The Voice) , อ.ปุ้ย ดวงพร (ปุ้ย The Voice) , กีต้าร์ เพลงประพันธ์ (กีต้าร์ The Voice) , อ๋อมแอ๋ม-ณัฐธิตา (อ๋อมแอ๋ม The Voice) , แก้ว-ปินปินัทธ์ (แก้วThe Voice) , แต๊ก วิชย (แต๊ก The Voice) และ สวย-สโรชา (สวย The Voice)


กิจกรรมในครั้งนี้ดำเนินการสร้างสรรค์ โดย The Sisters bsru (4 สาว นักวิชาการบันเทิงบ้านสมเด็จฯ) อ.มนัสวี พัวตระกูล (เก่ง You Can Do it) , อ.ดวงพร พงศ์ผาสุก (ปุ้ย The Voice) , อ.อารยา แสงมหาชัย (เชฟ พี่นก) , อ.พิมพ์พิไล ไทพิทักษ์ (ครูพิมพ์) พร้อมด้วยนักศึกษาสาขาวิชาการสื่อสารมวลชน สาขาวิชาการโฆษณาและธุรกิจบันเทิง สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และ อ.ณัฏฐ์ เดชะปัญญา (#ครูเข้มแข็ง)

กิจกรรมดีๆ แบบนี้จะพลาดได้ยังไงกันล่ะ !!!! นอกจากจะมาฟังเพลงเพราะ เก็บเอาความประทับใจดีๆ กลับไปแล้ว ก็ยังจะได้รับความรักที่ดีๆ มีให้เยอะๆ อีกด้วย อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันเยอะๆ นะ !!! #TheSistersbsru #สายเสียงนิเทศบ้านสมเด็จฯ #TheVoicesOfLoveBsru #ycdi #AdEntBsru #MassCommBsru #BcBsru
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เป๊ะปังบ้านโป่งมาก ! กับความสวยที่เพิ่มขึ้นของ “ติช่า The Face” ในเพลง “ไม่เป็นไร”

เป๊ะปังบ้านโป่งมาก ! กับความสวยที่เพิ่มขึ้นของ “ติช่า The Face” ในเพลง “ไม่เป็นไร”

คาดว่าหลายๆ คนก็คงจะได้ฟังและชมมิวสิควีดีโอเพลงใหม่ของ แร็ปเปอร์หนุ่มอย่าง “Timethai” ในเพลง “ไม่เป็นไร (All good)” กันไปบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากที่หนุ่มไทม์ไทยได้ย้ายมาอยู่ภายใต้ชายคาสังกัด “Yes Music” เราก็ได้เห็นพัฒนาการของนักร้องหนุ่มที่ดูโตขึ้น หล่อขึ้น และเท่ห์เพิ่มมากขึ้นอีกเป็นกอง พร้อมด้วยเพลงที่ดูเป็นตัวตนที่เขาชอบอย่างชัดเจน



โดยในเพลง ไม่เป็นไร (All good) ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของไทม์ไทยก็ได้ TJ แร็ปเปอร์มือหนึ่ง และนักแต่งเพลงฝีมือชั้นยอดมาร่วมแจมในเพลงนี้อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ !!! ในมิวสิควีดีโอเพลงนี้ ยังได้ ติช่า กันติชา สาวสวยดีกรีแชมป์จากการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดสาวสวยระดับประเทศอย่าง The Face Thailand Season 2 มาร่วมแสดงเป็นนางเอกในเพลงนี้อีกด้วย ถือได้ว่าเป็นการร่วมงานกันที่สุดแสนจะพิเศษจริงๆ


ในเพลง ไม่เป็นไร (All good) มีเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการที่เราไปรักคนอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเราแล้วก็ตาม หันไปชอบคนอื่น เราก็ปล่อยให้เขาไปโดยไม่แสดงอาการหึงหวง หรือตามทวงคืน ปล่อยให้เขาไปรัก ทั้งๆ ที่เราก็ยังรักมาก เป็นห่วงมาก พร้อมรอให้เขากลับมาหาเราเสมอ เรียกได้ว่าเป็นเพลงรักที่มีเนื้อหาที่แมนๆ มาก โดยเพลงนี้ได้ TJ มาเป็นผู้แต่งเนื้อร้องให้ด้วย ถึงแม้ว่า TJ จะมีอายุแค่เพียง 24 ปี แต่ก็ทำเพลงในสไตล์อาร์แอนด์บี ผสมกับฮิปฮอปออกมาได้ไม่ธรรมดาเลย


และเมื่อเพลงนี้ได้ถูกปล่อยออกมาเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็ทำยอดเข้าชมไปจนใกล้หลักล้านแล้ว ดูก็รู้ว่าเพลงนี้ที่แม้จะไม่ได้เป็นเพลงกระแส แต่ก็ยังได้รับความนิยมท่วมท้นขนาดนี้ เชื่อได้ว่าต่อๆ ไป แฟนเพลงคงจะตั้งตารอชมผลงานต่อๆ ไปของ Timethai ที่อาจะเป็นศิลปินอนาคตไกลอย่างแน่นอน



ขอบคุณภาพจาก Facebook RSFRIENDS
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เรียกคืนทุกความทรงจำไปกับเสียงของ “โจ้ PAUSE”

เรียกคืนทุกความทรงจำไปกับเสียงของ “โจ้ PAUSE”

หากจะเอ่ยชื่อวงดนตรีที่เป็นที่รู้จักในอดีตกับบทเพลงดังที่สร้างความสุขให้กับพวกเราคนฟังเพลงกันมาอย่างเนิ่นนาน ถ้าจะไม่ปรากฏชื่อ “PAUSE” ก็คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะชื่อนี้อยู่ในหัวใจวัยรุ่นไทยมาอย่างยาวนานกับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของนักร้องนำ อย่าง “โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “โจ้ วงพอส” ที่ฝากเพลงฮิตติดหูเอาไว้อย่างมากมาย อาทิ ดาว, รักเธอทั้งหมดของหัวใจ, ที่ว่าง, ข้อความ, ใจบางบาง และเพลงอื่นๆ อีกมาก


หลังการจากไปของนักร้องนำวงพอสที่พวกเราคิดถึง ภาพความทรงจำ และบทเพลงต่างๆ เหล่านั้นก็ถูกเก็บเอาไว้ในกล่องความทรงจำยาวนานกว่า 14 ปี มาจนถึงตอนนี้ ได้เวลาแล้วที่เสียงร้องเสียงนั้นจะกลับมาสร้างความสุขให้เราอีกครั้ง ค่าย “ME RECORDS” ขอรับหน้าที่เรียกสีสันให้กับวงการเพลงไทย ด้วยการต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของวง “PAUSE” ในรูปแบบดั้งเดิมกับสมาชิกทั้ง 4 คน นับตั้งแต่ “ฟองเบียร์-ปฏิเวธ” หัวเรือใหญ่ของ “มี เรคคอร์ดส” แย้มให้พวกเราได้รู้ว่า วงพอส คือหนึ่งในรายชื่อศิลปินที่จะมาขับกล่อมเพลงให้เราได้ฟังอีกครั้งภายใต้ชายคาค่ายเพลงน้องใหม่แห่งนี้ ก็เรียกเสียงฮือฮานับจากนั้นมาได้อยู่ไม่น้อย


เวลาต่อมาเพียงไม่นาน ค่าย “มี เรคคอร์ดส” ก็ได้ปล่อยวีดีโอตัวอย่างเพลงออกมาเรียกน้ำย่อย ทำให้แฟนเพลงรู้สึกสงสัยตะหงิดๆ ขึ้นมาทันทีว่าเพลงๆ นี้ “ใครเป็นคนร้อง ?” และเมื่อทุกอย่างมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ก็ทำให้เรารู้ว่า เพลง “รักอยู่รอบกาย” จะเป็นซิงเกิลใหม่ล่าสุดของวงพอสที่ร้องนำโดย “โจ้ อมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์” โดยได้ปล่อย Music Video ตัวเต็มออกมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 14 ปีการจากไปของ “โจ้” อีกด้วย


เมื่อเพลงได้ถูกปล่อยออกมาก็ได้เวลาสิ้นสุดการรอคอยกับน้ำเสียงที่คุ้นเคยจากคนที่คุณคิดถึง เพื่อเป็นการบอกกล่าวกับแฟนๆ ว่า “โจ้ ไม่ได้จากพวกเราไปไหน เขายังคงอยู่รอบกายของพวกเราเสมอ …” เพลงนี้เป็นการทำงานข้ามเวลาระหว่าง “เสียงของโจ้” “คีย์บอร์ด” ของ “เป้-ภิทรู พลชนะ” จนเมื่อเวลาผ่านไป และคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ลงตัว เพลงนี้จึงกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยสมาชิกทั้ง 4 ของวงพอส “โจ้ - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์” “เอ - พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ” “นอ - นรเทพ มาแสง” และ “บอส - นิรุจ เดชบุญ”


ซึ่งในมิวสิควีดีโอเพลง “รักอยู่รอบกาย” นี้ ได้มีการหยิบเอา “ต้นสน” และ “ขนนก” มาแทนกาลเวลา ที่แม้ว่าจะผ่านไปนานสักเพียงใด แต่สิ่งที่ “โจ้” เหลือไว้ คือ ดนตรี และเพลงที่เรายังคงประทับใจเสมอมาได้ถูกขับขานผ่านช่วงเวลามาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี อีกทั้ง “นอ” ยังได้ทำหน้าเป็น “หัวหน้าวง” บอกเล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้ ว่าเป็นเพลงสุดท้ายที่พวกเขาทั้ง 4 คนได้เล่นร่วมกัน และเป็นเพลงที่โจ้ร้องทิ้งไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งด้วยวิทยาการยุคใหม่ ทำให้พวกเขากลับมาเล่นดนตรีได้ครบทั้ง 4 คนอีกครั้ง

การทำเพลงสมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้เพลงนี้ออกมาสมบูรณ์ได้ในทุก TEMPO เหมือนเพลงทั่วๆ ไป แต่พวกเราเลือกที่จะไม่แก้ไขอะไรเลย ยังคงให้เป็นแบบเดิมเหมือนต้นฉบับ เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันสมบูรณ์ และสวยงามมากที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าหากถามถึงความรู้สึก พวกเขาบอกว่า “ถามถึงความรู้สึก คือพวกเราเองก็ตื่นเต้นนะครับ ที่เราทั้ง 4 คนจะได้กลับมาครบกันอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว เราอยากให้ทุกคนได้ติดตามเพลงใหม่ของพวกเราเพลงนี้ครับ 

สำหรับพวกเรา ... เราคิดว่ามันมีค่าแน่นอน เราจะร่วมทางกันไปอีกครั้งทั้งคนเล่น และคนฟัง ไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้คนฟัง และแฟนเพลงของวงพอสดีใจในการกลับมาของพวกเค้าแค่ไหน .... เรามาเปิดกล่องความทรงจำกันอีกครั้ง โจ้ พอส ยังคงมี “รักอยู่รอบกาย” เสียงที่คิดถึง ความทรงจำที่คิดถึงสิ้นสุดการรอคอย ...”



ขอบคุณภาพประกอบจากแฟนเพจ Pause
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

กลับมาอีกครั้งกับเจ้าของเสียงใสๆ “อิ๊งค์ วรันธร” ในฐานะศิลปินเดี่ยวภายใต้บ้าน Boxx Music

กลับมาอีกครั้งกับเจ้าของเสียงใสๆ “อิ๊งค์ วรันธร” ในฐานะศิลปินเดี่ยวภายใต้บ้าน Boxx Music

อาจจะเคยเห็นหน้าคร่าตากันไปบ้างแล้วสำหรับสาวหน้าใสคนนี้ “อิ๊งค์ วรันธร” ที่เคยผ่านผลงานการแสดงในภาพยนตร์ อย่าง “SNAP” ที่ทำให้ใครหลายๆ คนประทับใจกับเรื่องราวระหว่างเพื่อนสมัยเรียน ทั้งมิตรภาพ ความทรงจำ และเรื่องราวความรักครั้งเก่า อีกทั้งอิ๊งค์ก็ยังเป็นเด็กกิจกรรมตัวยงในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ล่าสุด เธอได้มีผลงานเพลงใหม่เป็นของตัวเองภายใต้สังกัด Boxx Music ในเครือ Music Move หรือสหภาพดนตรี กับเพลงแรกในชีวิตที่มีชื่อว่า “เหงา เหงา” วันนี้ถือโอกาสดีได้เจอกับเธอ เราจะมาพูดคุยกับเธอกัน 


ก่อนอื่นขอถามอิ๊งค์ก่อนเลยว่าชอบการร้องเพลงได้อย่างไร

คือเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่ 7 ขวบเลย เพราะคุณพ่อชอบการร้องเพลงเลยส่งลูกทั้งสามคนเรียนร้องเพลงหมดเลย แต่ตอนนี้มีอิ๊งค์คนเดียวที่เหลือรอด ที่ยังร้องเพลงจนทุกวันนี้

แล้วอิ๊งค์มาร่วมงานกับทาง Boxx Music ได้อย่างไร

คือเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยจนได้มารู้จักพี่โอ๊บ ที่เป็นโปรดิวเวอร์วง Clash และรู้จักพี่พล พอพี่พลทำค่ายเพลงเลยชวนมาทำเพลงด้วยค่ะ

อิ๊งค์มีโอกาสได้ทำเพลงโปรเจ็ค กับ Music move และ Boxx music มาแล้ว พอตอนนี้มีเพลงเป็นของตัวเองรู้สึกอย่างไร

ก็เป็นซิงเกิ้ลแรกเป็นของตัวเองเลย คืออิ๊งค์เรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกเออ มันเป็นของฉันแล้วจริงๆ รู้สึกภูมิใจมากๆ


แล้วอิ๊งค์มีส่วนร่วมกับซิงเกิ้ลนี้อย่างไรบ้าง 

ก็อิ๊งค์มีส่วนร่วมตั้งแต่ตอนคิด Content เลยก็พี่พล พี่ยักษ์ พี่เอก Season Five และ พี่โอ๊บ โปรดิวเซอร์ ก็มานั่งคุยว่าเรามีประสบการณ์ความรักอย่างไรบ้าง และพี่เขาชอบเรื่องที่เรา เหงาเหงา หลังจากทะเลาะกับแฟน เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา

เอ็มวีเพลงนี้มีเรื่องราวน่าสนใจมาก ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนครับ

ก็ได้มาจากพี่เดชเลย พี่เดชนำเสนอขึ้นมา แล้วทุกคนชอบเพราะมันแปลกใหม่ สามารถสื่อความเหงา ที่ได้เห็นคนอยู่สองห้วงเวลา แล้วมีช่องตรงกลางที่แทนความห่างความเหงาที่เกิดขึ้น 

อยากให้ฝากผลงานครับ

ก็สามารถฟังได้ที่ Joox Free music application และสามารถติดตาม Facebook Boxx music หรือ Ink waruntorn ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ถือได้ว่าอิ๊งค์เป็นอีกคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็ก และมีความผูกพันธ์เป็นอย่างมาก จนในที่สุดเธอก็ได้มีโอกาสทำผลงานเพลงเป็นของตัวเอง อีกทั้งเธอยังสามารถจัดการบริหารเวลาได้เป็นอย่างดีทั้งเรียน กิจกรรม และการทำงาน เราหวังว่าคงจะได้เห็นผลงานของอิ๊งค์ที่หลากหลายมากขึ้นต่อจากนี้ อยากให้ฝากติดตามศิลปินสาวน้อยคนนี้ด้วยนะครับ


ข้อมูลเพิ่มเติมจาก S! Music
วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

“นนท์” ควง “น้ำตาล พิจักขณา” นางเอกดาวรุ่ง ใน Music Series เพลง หัวใจมีสายเรียกซ้อน

“นนท์” ควง “น้ำตาล พิจักขณา” นางเอกดาวรุ่ง ใน Music Series เพลง หัวใจมีสายเรียกซ้อน

ถึงเวลาที่จะได้เห็นฝีไม้ลายมือกันอย่างจริงแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงจากเวที The Voice Thailand “นนท์ ธนนท์” ที่ครั้งนี้ค่ายเพลง I AM ได้จัดใหญ่ !!! จัดเต็ม !!! เชิญชวนนางเอกดาวรุ่งแถวหน้าอย่าง “น้ำตาล พิจักขณา” มาเขาร่วมแสดงในมิวสิควีดีโอโปรเจคต์พิเศษ “ธนนท์ คนมหานิยม & Friends Special Project” ที่จำให้ใครๆ ต่างก็ต้องตาร้อนผ่าน ฟินจิกของปากกันอย่างถ้วนหน้าในเพลง “หัวใจมีสายเรียกซ้อน


โดยในเพลงนี้ถือได้ว่าเป็นการประกบคู่ทำงานร่วมกันครั้งแรกของหนุ่มนนท์ และสาวน้ำตาล กับบทเพลงที่มีความเป็นลูกทุ่งแบบร่วมสมัย มาพร้อมกับทำนองเพลงที่ฟังง่ายๆ แบบบ้านเรา แต่เต็มไปด้วยดนตรีที่มีกลิ่นอายของ Blues ที่ติดหู ฟังเพราะทุกทีที่ได้ยิน ...


นนท์ ธนนท์ ได้เปิดเผยความรู้สึกในการทำงานครั้งนี้ให้ฟังว่า ...

“ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณพี่น้ำตาลมากนะครับ ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมแสดงในมิวสิคซีรีย์เพลงนี้ด้วยกัน แอบกังวลอยู่เหมือนกันครับเพราะเราก็ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพด้วย แถมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกด้วย ที่ผมจะต้องมาแสดงในบท Romantic Drama เครียดไปอยู่หลายวันเหมือนกัน




ทำการบ้านกับบทที่ได้รับมาหนักพอสมควร กลัวจะทำให้พี่น้ำตาลและพี่ๆทีมงานต้องเสียเวลาในการถ่ายทำแต่สุดท้ายไม่เลยครับทุกอย่างผ่านไปด้วยดีมากๆ ไม่เกร็งไม่เครียดอย่างที่คาดคิดไว้เลย ทุกอย่างผ่านฉลุยอย่างรวดเร็วเพราะพี่น้ำตาลเค้าแสดงและส่งอารมณ์ออกมาให้ผมได้เยี่ยมมากๆทำเอาแต่ละซีนถ่ายไม่กี่เทคก็ผ่านแล้ว (แอบยิ้ม)



ต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าพี่น้ำตาลเค้าแสดงได้เก่งสมกับเป็นนางเอกชั้นนำของประเทศจริงๆครับ เพราะอย่างที่ทราบกันไปบ้างแล้วว่า มิวสิคซีรีย์นี้ใช้เวลาในการถ่ายทำนานหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยหรือท้อเลย ไม่ว่าจะเป็น พี่น้ำตาล, พี่ปอ, พี่หนุ่ม และน้องจั๊กจั่น

รวมถึงพี่ๆ ทีมงานทุกๆ คนผมต้องขอขอบคุณพี่ทุกๆคนมากครับที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานชิ้นนี้ออกมา ผมรับรองเลยครับว่า มิวสิคซีรีย์เพลง หัวใจมีสายเรียกซ้อนเพลงนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอนครับ”



วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"มันถูกอยู่แล้ว" Single ใหม่ที่เข้าใจคนเหงามากที่สุด จาก สิงโต นำโชค

"มันถูกแล้ว" Single ใหม่ที่เข้าใจคนเหงามากที่สุด จาด สิงโต นำโชค

ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับวันแห่งความรัก อย่าง “วันวาเลนไทน์” ที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนพิเศษสำหรับใครอีกหลายคน แต่สำหรับบางคน .. ในวันที่ 14 กุมภา อาจเป็นวันที่ “เหงา” ที่สุดได้เหมือนกัน เดี๋ยวก่อนนะ ไม่อยากจะลากเข้าดราม่า แค่อยากจะบอกว่า “โค๊ชสิงโต” กลับมาแว้ว !!!!


อะแฮ่ม ! หลังจากที่ปล่อยซิงเกิลแรก เพลง “ปล.คิดถึง” ไปได้ไม่ทันไร รอบนี้ขอกลับมาเอาใจคนเหงารับวาเลนไทน์กันต่อในซิงเกิลที่สองด้วยเพลง “มันถูกอยู่แล้ว” เป็นเพลงป๊อบ (POP) ช้า ฟังสบายในสไตล์สิงโต มีกีตาร์โปร่งประกอบการร้อง ให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกลึกๆ ในใจที่อยากถ่ายทอด แสดงออกถึงอารมณ์แห่งความสุข และความเศร้าที่ปะปนกันไปผ่านเครื่องดนตรีในเพลง


สำหรับในเพลงนี้ “สิงโต” ลงมือแต่งเนื้อร้อง และทำนองร่วมกับ “ตั้ม โมโนโทน” โดยมีโปรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง “กิจจ๊าซ” (Kijjaz) มาร่วมทำงานในอัลบั้มชุดนี้ด้วยอีกครั้ง โดยในเพลงนี้พูดถึงมุมมองของคนโสดที่มักจะเกิดคำถามขึ้นอยู่ในใจ ว่าทำไมเราถึงยังไม่มีใคร ? ทำไมเราต้องอยู่คนเดียว ? จนเกิดการตัดพ้อน้อยใจชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรต้องคิดแบบนั้น เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เกิดในช่วงของมัน ตำแหน่งของมันถูกต้องอยู่แล้ว สิงโตจึงอยากจะให้เพลงนี้ด้วยรักษาเยียวยาจิตใจบรรดาคนโสดให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ ไปให้ได้ ถือได้ว่าเพลงนี้ช่วยตอบโจทย์คนกำลังเหงาในคืนวันวาเลนไทน์ได้เป็นอย่างดีจริงๆ



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Singto Numchok
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ฉุดไม่อยู่ “แพ้ทาง” Single ต่อมาจากวง “ลาบานูน” ทะลุล้านวิวในวันเดียว !!!

หลังจากการกลับมาอีกครั้งของวงร็อครุ่นเก๋าอย่างวง “ลาบานูน” ที่เคยได้สร้างการจดจำจากเพลงฮิตต่างๆ ในอดีต ครั้งนี้เขากลับมาทวงแชมป์เจ้าของเพลงดังแห่งยุค 2558 อย่าง “เชือกวิเศษ” และ “พลังงานจน” ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ความแรงไปทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าจะเปิดที่ไหนก็มีแต่คนร้องตามได้ รวมถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ก็มีการแชร์เพลงลงบนหน้าไทม์ไลน์ Facebook กันอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้ยอดผู้เข้าชมบนเว็บไซต์ YouTube สูงที่สุดกว่า 200 ล้านวิว !!! และตอนนี้วงลาบานูนเขากลับมาพร้อมกับ Single ใหม่ “แพ้ทาง” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่รองลงมาจากสองเพลงแรก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวเพลงใหม่ๆ ที่สามารถหาฟังได้จากวงดนตรีร็อคแถวหน้าอย่าง “ลาบานูน”





เนื้อหาของเพลง “แพ้ทาง” นั้นได้พูดถึงเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่แพ้ทางให้กับผู้หญิงที่มีความสวย และสุดแสนจะเป็นคนพิเศษ ทำให้เราต้องพ่ายแพ้ในทุกครั้งที่เจอกัน เป็นเหมือนเพลงที่สามารถแสดงความในใจของผู้ชายขี้อายได้เป็นอย่างดี ซึ่งในเพลงนี้ได้ถูกออกแบบให้มีสไตล์เป็น Easy Listening ที่ฟังง่าย มีจังหวะที่เบานุ่มลงกว่าเพลงก่อนๆ ถือได้ว่าเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ในวันผ่อนคลาย ผิดกับเพลงแรกๆ ที่จะให้จังหวะ อารมณ์ และความรู้สึกในอีกแบบ โดยตอนแรกเพลงนี้ เมธี(นักร้องนำ) ตั้งใจให้อนันต์(มือเบส) เป็นคนร้อง แต่สุดท้ายเมธีก็ต้องกลับมาร้องเองอยู่ดี



ส่วนในมิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็ได้ 6 สาวจากมิวสิควีดีโอก่อนหน้าของค่าย Genie มาร่วมแสดงในบทบาทของนักกีฬาสาว ทำให้หนุ่ม เบส ซึ่งรับบทพระเอกในเพลงนี้ต้องรู้สึกแพ้ทางให้กับพวกเธอ อีกทั้งการจัดเต็มในมิวสิควีดีโอครั้งนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองที่เพลง “เชือกวิเศษ” มียอดวิวทะลุ 200 ล้านวิวอีกด้วย


การกลับมาในครั้งนี้กับ Single ใหม่ถือว่าได้เสียงตอบรับที่ดีจากคนฟัง จนทำให้ยอดวิวของมิวสิควีดีโอเพลง “แพ้ทาง” พุ่งสูงทะลุล้านวิวในเวลาเพียงแค่วันเดียว รวมถึงคนอื่นๆ ก็ยังคงจับตองมามองผลงานเพลงของวงลาบานูนในช่วงนี้อยู่มาก เพราะเรียกได้ว่าเป็นวงดนตรีที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้หลากหลายแนว แต่ก็ไม่เคยสูญเสียความเป็น “ลาบานูน” เลยแม้แต่น้อย …




ขอขอบคุณภาพจาก Facebook Labanoon และ Genie Records